เนื้อเรื่องย่อ
มัทนะพาธา ตอนที่นำมาศึกษาเป็นองค์ที่ ๑ เริ่มต้นด้วยมายาวินทำพิธีสะกดพามัทนามาพบสุเทษณ์
ไปจนจบองค์ เมื่อสุเทศน์สาปมัทนาเป็นดอกกุหลาบ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราช- นิพนธ์มัทนะพาธาเป็นเรื่องสมมุติว่า เกิดในอินเดียโบราณ โดยกล่าวถึงเหตุการณ์แบ่งเป็น 2 ภาค กล่าวคือ ภาคสวรรค์ กล่าวถึง “สุเทษณ์” เทพบุตรบนสวรรค์เป็นทุกข์ด้วยหลงรักนางฟ้า “มัทนา” แต่นางไม่รักตอบ จึงขอให้วิทยาธรชื่อ “มายาวิน” ใช้เวทมนตร์เรียกนางมัทนามาหา เมื่อมาแล้วนางก็เหม่อลอยไม่มีสติเพราะ ตกอยู่ในฤทธิ์มนตรา สุเทษณ์ไม่ต้องการได้นางด้วยวิธีนั้นจึงให้มายาวินคลายเวทมนตร์ แต่ครั้นได้สติแล้ว นางมัทนาก็ปฏิเสธสุเทษณ์ สุเทษณ์โกรธนักจึงจะสาปมัทนาให้ไปเกิดในโลกมนุษย์ มัทนาขอเกิดเป็นดอกไม้ มีกลิ่นหอมเพื่อให้มีประโยชน์บ้าง สุเทษณ์จึงสาปให้นางมัทนาไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ ไม้งามซึ่งแต่เดิมมีเพียง บนสวรรค์เท่านั้น เป็นดอกไม้ที่งามทั้งกลิ่นและรูป โดยที่ในทุกๆ ๑ เดือน นางมัทนาจะกลายเป็นหญิงสาว ได้ชั่วเวลา ๑ วัน ๑ คืน เฉพาะวันเพ็ญของแต่ละเดือนเท่านั้น และถ้านางมีความรักเมื่อใด นางจะมิต้องคืนร่าง เป็นกุหลาบอีก แต่นางจะได้รับความทุกข์ทรมาณเพราะความรักจนมิอาจทนอยู่ได้ และเมื่อนั้นให้นางอ้อนวอน ขอความช่วยเหลือจากตน ตนจึงจะงดโทษทัณฑ์นี้ให้แก่นาง ภาคพื้นดิน นางมัทนาไปจุติเป็นดอกกุหลาบงามอยู่กลางป่า ฤๅษีนาม “กาลทรรศิน” จึงพยายามขุดไปปลูกใกล้ อาศรมของตน ในขณะที่ทำการขุดก็มีเสียงผู้หญิงร้องเมื่อเล็งญาณดูก็รู้ว่าเป็นเทพธิดามาจุติ จึงได้เอ่ยเชิญและ สัญญาว่าจะคอยดูแลปกป้องนาง เมื่อถึงวันเพ็ญดอกกุหลาบก็กลายเป็นมนุษย์ ฤๅษีเลี้ยงดูนางเหมือนลูก วันเพ็ญในเดือนหนึ่ง ท้าวชัยเสนแห่งเมืองหัสดินปุระเสด็จออกประพาสป่าหิมะวัน และได้แวะมาพัก ที่อาศรมฤๅษี เมื่อเห็นนางมัทนาก็ตกหลุมรัก ท้าวชัยเสนจึงประกาศหมั้นและสัญญารัก เมื่อมีความรัก แล้วนางมัทนาจึงคงรูปเป็นนารีผู้งดงามไม่ต้องกลายเป็นกุหลาบอีก ท้าวชัยเสนได้ทูลขอนางมัทนา พระฤๅษี จัดพิธีอภิเษกสมรสให้ทั้งๆที่รู้ว่ามัทนาจะต้องทนทุกข์เพราะความรัก ท้าวชัยเสนทรงพานางมัทนากลับไปยังกรุงหัสดินปุระ พระนางมัทรีทราบข่าวว่าพระสวามี นำสาวชาวป่ากลับมาด้วยจึงเจรจาดูหมิ่นนางมัทนาทำให้ชัยเสนกริ้วและทรงดุด่าว่าเป็นมเหสีผู้ริษยา พระนางจันฑีแค้นใจจึงให้คนไปทูลฟ้าพระบิดาผุ้เป็นเจ้าแห่งมคธนครให้ยกทัพมาทำศึกกับ ท้าวชัยเสน จากนั้นให้นางค่อมอราลีและวิทูรพราหมณ์หมอเสน่ห์ทำอุบายกลั่นแกล้งนางมัทนาโดยส่งหนังสือ ไปทูลท้าวชัยเสนว่านางมัทนาป่วย เมื่อท้าวชัยเสนรีบเสด็จมาเยี่ยมนางมัทนาก็กลับพบหมอเสน่ห์ทำพิธีอยู่ใกล้ๆ ต้นกุหลาบ วิทูรกับนางเกศินีข้าหลวงของนางจันฑีจึงทูลว่ามัทนาให้มาทำเสน่ห์ ท้าวชัยเสนกริ้วนัก รับสั่งให้ ศุภางค์ประหารนางมัทนา แต่ศุภางค์ไม่ยอม ท้าวชัยเสนจึงสั่งประหารทั้งคู่ ท้าวมคธยกกองทัพมาถึงเมืองหัสดินปุระ พระนางจันฑีอาสาออกไปห้ามศึกพระบิดา แต่ท้าวชัยเสนรู้ทัน จึงออกทำศึกแล้วตัดหัวกษัตริย์มคธพ่อตาเอามาให้นางจันฑี ขณะนั้นวิทูรพราหมณ์ได้ขอเข้าเฝ้าเพื่อสารภาพว่า พระนางจันฑีเป็นผู้วางแผนการร้าย ซึ่งในที่สุดแล้วพระนางสำนึกผิดและละอายต่อบาปที่เป็นเหตุให้คน บริสุทธิ์ต้องรับโทษประหาร ชัยเสนทราบความจริงคิดจะฆ่าตัวตาย แต่อำมาตย์นันทิวรรธนะห้ามไว้และสารภาพว่าคืนนั้น ตนไม่ได้ประหารศุภางค์และมัทนา หากแต่ปล่อยเข้าป่าไป นางมัทนานั้นได้โสมะทัตศิษย์ของฤๅษีกาละทรรศิน นำพากลับสู่อาศรมเดิม ส่วนศุภางค์นั้นตายในสนามรบ ชัยเสนจึงสั่งเนรเทศพระนางจัณฑีพระมเหสีออกจากเมือง ฝ่ายนางมัทนาได้ทำพิธีบูชาสุเทษณ์เทพบุตรเพื่อช่วยนางด้วย สุเทษณ์ยินดีจะแก้คำสาปและรับนาง เป็นมเหสี แต่นางปฏิเสธ สุเทษณ์โกรธมากจึงสาปให้นางเป็นดอกกุหลาบไปตลอดกาล เมื่อท้าวชัยเสนมาถึง นางปริยัมวะทาสที่ตามมาปรนนิบัติดูแลนางมัทนาก็ทูลเล่าให้ชัยเสนทราบ ชัยเสนทำได้แค่เพียงนำต้นกุหลาบนั้นกลับไปปลูกยังอุทยานและขอพรจากฤๅษีกาลทรรศินว่า ขอให้กุหลาบนั้น ยังคงงดงามไม่ร่วงโรยราจนกว่าพระองค์จะสิ้นอายุขัย ฤาษีประสาทพรให้กุหลาบนั้นดำรงอยู่คู่โลก ไม่สูญพันธ์ อีกทั้งยังเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหวาน สามารถช่วยดับทุกข์ในใจคน ชายหญิงเมื่อมีความรักก็ให้ใช้ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักแท้สืบต่อไป |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น