บทนำเรื่อง/ที่มาของเรื่องลิลิตตะเลงพ่าย

บทนำเรื่อง
คำว่า ลิลิตตะเลงพ่าย มาจากคำว่า ลิลิต + ตะเลง + พ่าย
"ลิลิต"              คือ                   คำประพันธ์ประเภทโคลงกับร่าย
"ตะเลง"          แปลว่า             มอญ ในที่นี้หมายถึง พม่า
"พ่าย"              หมายถึง           แพ้ ฉะนั้น ตะเลงพ่ายจึงหมายถึง พม่าแพ้

ลิลิตตะเลงพ่ายจัดเป็นวรรณคดีเฉลิมพระเกียรติและวรรณคดีประวัติศาสตร์ ซึ่งผู้แต่งสามารถ
ทำให้เนื้อหาทางประวัติศาสตร์กลับมามีชีวิตชีวา วรรณคดีเรื่องนี้จึงมีคุณค่ายิ่งควรแก่การศึกษา

ที่มาของเรื่อง
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระนิพนธ์เรื่องลิลิตตะเลงพ่ายในขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่นนุชิตชิโนรส โดยมีพระเจ้าบรมวงศ์รอ พระองค์เจ้ากปิตถาขัตติยกุมาร กรมหมื่นภูบาลบริรักษ์พระนัดดาของพระองค์ทรงช่วยนิพนธ์เล็กน้อย

จุดประสงค์ในการนิพนธ์เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย คือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา ดังคำประพันธ์ว่า

เฉลิมพระเกียรติผ่านเผ้า           เจ้าจักรพรรดิแผ่นสยาม

ลิลิตตะเลงพ่ายมีรูปแบบคำประพันธ์เป็นลิลิต ประกอบด้วย โคลงกับร่าย คือ ร่ายสุภาพ
กับโคลงสุภาพ ซึ่งมีทั้งโคลงสองสุภพ โคลงสามสุภาพ และโคลงสี่สุภาพ รวมจำนวน ๔๓๙ บท
สงครามยุทธหัตถีเป็นการรบบนหลังช้างของพระมหากษัตริย์ชาตินักรบ เพราะต้องต่อสู้กันตัวต่อตัวและนับเป็นวีรกรรมของพระมหากษัตริย์ ถือว่าเป็นพระเกียรติยศแห่งราชา การกระทำยุทธหัตถี
ครั้งนี้ ระหว่างสมเด็จพระนเรศรมหาราชกับพระมหาอุปราชาเป็นการกระทำยุทธหัตถีครั้งสุดท้าย
หลังจากนั้นไม่มีการรบบนหลังช้างอีกเลย ดังคำประพันธ์ว่า

หัสดีรณเรศอ้าง                        อวสาน นี้นา
นับอนาคตกาล                                                ห่อนพ้อง
ขัตติยายุทธ์บรรหาร                             คชคู่ กันเฮ

คงแต่เผื่อพี่น้อง                                    ตราบฟ้าดินกษัย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น